เริ่มต้นกับเราวันนี้
(ข) เจตนาโดยผลของกฎหมาย คือ เจตนาโดยพลาด ตามมาตรา 60 มี เนื้อความว่า “ผู้ใดมีเจตนาที่จะกระทำต่อบุคคลหนึ่ง แต่ผลของการกระทำเกิดแก่อีกบุคคลหนึ่งโดยพลาดไป ให้ถือว่าผู้นั้น กระทำโดยเจตนาแก่บุคคลซึ่งได้รับผลร้ายจากการกระทำนั้น แต่ในกรณีที่กฎหมายบัญญัติให้ลงโทษหนักขึ้น เพราะฐานะของบุคคลหรือเพราะความ สัมพันธ์ระหว่างผู้กระทำกับบุคคลที่ได้รับผลร้ายมิให้นำกฎหมายนั้น มา ใช้บังคับเพื่อลงโทษผู้กระทำให้หนักขึ้น” เช่น นาย ก. เอาก้อนหินประสงค์จะขว้างนาย ข. แต่ขว้างไม่ถูก ก้อน หินไปถูกหัวนาย ค. ที่อยู่ข้างหลังหัวแตก นาย ก.จึงต้องรับผิดต่อนาย ค. ในฐานทำร้ายนาย ค. ให้ได้รับ อันตรายแก่กาย โดยเจตนาโดยพลาด เป็นต้น
– ประมาท ก็คือกรณีที่กฎหมายบังคับให้ต้องรับผิดเมื่อได้กระทำโดยประมาทนั้น หมายความว่า ผู้กระทำได้ กระทำครบองค์ประกอบภายนอกของความผิดแล้วแต่มิได้กระทำการไปโดยเจตนา แต่ได้ขาดความระมัดระวัง ตามวิสัยและพฤติการณ์ของบุคคลทั่วไปพึงมี แต่ก็ไม่ได้ใช้ความระมัดระวังดังกล่าวอย่างเพียงพอ เช่น ฝนตก ถนนลื่น นาย ก. ขับรถลงสะพานด้วยความเร็วสูงเบรกไม่ทันชนรถ นาย ข. ทำให้นาย ข. ขาขาด นาย ก. จึง ต้องรับผิดอาญาฐานประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส ตามมาตรา 300 เป็นต้น